การเติมแร่ธาตุในน้ำสำหรับทำเบียร์ มีหลักการอย่างไร
การเติมแร่ธาตุในน้ำสำหรับการทำเบียร์ (water treatment) หรือที่ Brewer ใช้คำว่าการปรุงน้ำ คือกระบวนการที่ช่วยปรับสมดุลของน้ำเพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์ของเบียร์ที่เราต้องการทำ เพราะแร่ธาตุในน้ำมีผลต่อรสชาติ, สี, ความขม, และกระบวนการหมัก
โดยหลักการเติมแร่ธาตุในน้ำสำหรับทำเบียร์มีขั้นตอนดังนี้
1. ตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ใช้
- เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่คุณมีอยู่ เช่น การวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH), ปริมาณแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, โซเดียม, ซัลเฟต, คลอไรด์, และไบคาร์บอเนต ค่านี้จะช่วยให้ทราบว่าแร่ธาตุในน้ำที่มีอยู่แล้วมีอะไรบ้าง
2. กำหนดแร่ธาตุที่ต้องการเพิ่มหรือลดในคราฟเบียร์แต่ละชนิด
- เลือกสไตล์เบียร์ที่ต้องการทำและศึกษาข้อมูลว่าแร่ธาตุใดที่มีความสำคัญสำหรับสไตล์นั้นๆ ตัวอย่างเช่น:
เบียร์ Pale Ale อาจต้องการเพิ่มซัลเฟตเพื่อชูความขมและรสชาติของมอลต์เด่นขึ้น
3. การคำนวณปริมาณแร่ธาตุที่ต้องการเพิ่มในเบียร์
- Brewing water calculator เพื่อคำนวณปริมาณแร่ธาตุที่ต้องการเพิ่ม เช่น Gypsum (CaSO4) เพื่อเพิ่มแคลเซียมและซัลเฟต, Epsom salt (MgSO4) เพื่อเพิ่มแมกนีเซียมและซัลเฟต, หรือ Calcium chloride (CaCl2) เพื่อเพิ่มแคลเซียมและคลอไรด์
- เราสามารถทดลองปรับแต่งปริมาณสารเคมีสำหรับปรุงน้ำในเบียร์ได้จาก Brewersfriend ตาม URL ด้านล่าง
https://www.brewersfriend.com/water-chemistry/
4. การปรับค่า pH ช่วงของการ Mashing
- การปรับค่า pH ของน้ำและ mash ก็เป็นส่วนหนึ่งของการปรับแต่งแร่ธาตุ การปรับค่า pH ให้เหมาะสมจะช่วยในกระบวนการสกัดน้ำตาล การหมักและผลลัพธ์ของเบียร์ ปกติค่า pH ที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 5.2 – 5.6
5. การทดลองและปรับแต่ง
- การทดลองทำเบียร์และชิมผลลัพธ์จะช่วยให้คุณเรียนรู้ว่าแร่ธาตุที่เพิ่มเข้าไปมีผลอย่างไรและควรปรับเปลี่ยนอะไรในการทำครั้งต่อไป
ปล. การเติมแร่ธาตุในน้ำสำหรับการทำเบียร์เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการเรียนรู้และทดลอง คุยกันได้อีกเป็นวันๆ เมื่อทำบ่อยๆ จะสามารถปรับแต่งน้ำให้เหมาะสมกับเบียร์ที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ